วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

วัฏจักรชีวิตสัตว์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕

วัฏจักรชีวิตสัตว์ หรือใช้คำว่า วงจรชีวิตสัตว์ (Life cycle)
ความหมาย
    
วงจรชีวิตของสัตว์ หมายถึง ชีวิตการเจริญเติบโตของสัตว์ที่เจริญเติบโตต่อเนื่องกันมาอย่างเป็นระเบียบ การเจริญเติบโตของสัตว์บางชนิดจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในการเจริญเติบโตเช่น กบ ตอนแรกมาจากแม่ครั้งแรกจะเป็นไข่ หลังจากนั้นจะเปลี่ยนจากไข่กลายเป็นลูกอ๊อด เมื่อโตขึ้นมาอีกหน่อยหางจะหดลงแล้วขึ้นมาหากินบนบกจนกลายเป็นกบ

Metamorphosis       Metamorphosis  หมายถึง การเจริญเติบโตที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างลักษณะเป็นขั้น ๆ ในระหว่างเจริญเติบโตได้แก่ สัตว์ครึ่งน้ำครึ่งบก และแมลงเกือบทุกชนิด  การเปลี่ยนแปลงรูปร่างมี 3 แบบ 

การเจริญเติบโตที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างครบ 4 ชั้น (Complete Metamorphosis)     เมตามอร์โฟซีสแบบสมบูรณ์ คือ แมลงที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างครบ 4 ขั้น คือ ไข่ (egg) è ตัวอ่อน (larva) è ดักแด้ (pupa) è ตัวเต็มวัย (adult) ได้แก่ ยุง ผีเสื้อ ผึ้ง มด ต่อ แตน ไหม แมลงวัน ด้วง
การเจริญเติบโตที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างไม่ครบ 4 ชั้น (Incomplete Metamorphosis)     เมตามอร์โฟซีสแบบไม่สมบูรณ์ คือ แมลงที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างไม่ครบขั้น มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างเพียง 3 ขั้น คือ ไข่ (egg) èตัวอ่อนในน้ำ (naiad) è ตัวเต็มวัย (adult) ได้แก่ แมลงปอ ชีปะขาว จิงโจ้น้ำ
การเจริญเติบโตที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างแบบค่อยเป็นค่อยไป (Gradual Metamorphosis)     เมตามอร์โฟซีสแบบค่อยเป็นค่อยไป คือ แมลงที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างที่ละน้อยไม่ครบขั้น มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างเพียง 3 ขั้น คือ ไข่ (egg) è ตัวอ่อน (mymph) è ตัวเต็มวัย (adult)  ได้แก่ แมลงสาบ ตั๊กแตน จิ้งหรีด จักจั่น มวนต่าง ๆ เหา ปลวก ไร เรือด เพลี้ย

การเติบโตที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างลักษณะ (Ametamorphosis)     การเจริญเติบโตที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างลักษณะเป็นขั้น ๆ ในระหว่างเจริญเติบโต ตัวอ่อนจะมีลักษณะรูปร่างเหมือนตัวเต็มวัยทุกประการเพียงแต่มีขนาดเล็กกว่า ได้แก่ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลื้อนคลาน สัตว์ปีก แมลงบางชนิด เช่น ตัวสองง่าม ตัวสามง่าม แมลงหางดีด
แบบทดสอบ จำนวน 5 ข้อ

วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เก็บตกคำถามในระบบหมุนเวียนเลือดสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาที่ใฝ่เรียนรู้

ขอบข่ายสาระการเรียนรู้แกนกลางรายวิชา วิทยาศาสตร์ ป.๖
มฐ. ว ๑.๑ ป๖/๒  อธิบายการทำงานที่สัมพันธ์กันของระบบย่อยอาหาร ระบบหายใจ และระบบหมุนเวียนเลือดมนุษย์

สาระสำคัญ
   ระบบบย่อยอาหาร ทำหน้าที่ย่อยอาหารให้เป็นสารอาหารขนาดเล็กแล้วจะถูกดูดซึมเข้าสู่ระบบหมุนเวียนเลือด แก็สออกซิเจนที่ได้จากระบบหายใจจะทำให้สารอาหารเกิดการเปลี่ยนแปลงจนกลายเป็นพลังงานที่ร่างกายนำไปใช้ได้
ตอนที่ ๑
คำถามที่เกี่ยวข้อง(ขอบข่ายระบบภายในร่างกายมนุษย์)
   ๑.การย่อยอาหารเกิดขึ้นที่ส่วนใดได้บ้าง.......................................................................
   ๒.ที่ปากสามารถย่อยอาหารด้วยกระบวนการทางเคมีของสารประเภทใด........................
   ๓.หลอดอาหารช่วยย่อยอาหารได้หรือไม่....................
   ๔.กระเพาะอาหารย่อยอาหารประเภทใด........................................................................
   ๕.กระเพาะอาหารดูดซึมสารอาหารได้หรือไม่............................................................................
   ๖.น้ำย่อยที่ใช้ในกระเพาะอาหารได้แก่อะไรบ้าง.................................................................. และถูกสร้างมาจากอวัยวะใด................................................................................................................
  ๗.ลำไส้เล็กมีหน้าที่อะไร..............................................................................................................
  ๘.น้ำย่อยที่ใช้ในลำไส้เล็กใช้ย่อยสารอาหารประเภทใดได้บ้าง..............................................................
..................................................................................................................................................................
  ๙.สารอาหารถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดที่ส่วนใดของลำไส้เล็ก............................................................
 ๑๐.ระบบหมุนเวียนเลือดทำหน้าที่อะไร....................................................................................................
 ๑๑.ทำไมคนเราต้องมีเลือด ทั้ง ๆ ที่เราก็ได้กินอาหารและย่อยอาหารไปแล้ว..........................................
..................................................................................................................................................................
 ๑๒.เลือดมีองค์ประกอบอะไรบ้าง.............................................................................................................
 ๑๓.องค์ประกอบใดของเลือดที่ทำหน้าที่ลำเลียงแก๊สออกซิเจน .......... ..................................................
 ๑๔.องค์ประกอบใดของเลือดที่ทำหน้าที่ทำหน้าที่กำจัดเชื้อโรค..............................................................
 ๑๕.องค์ประกอบใดของเลือดที่ทำหน้าที่ในการสมานแผลของหลอดเลือด.............................................
 ๑๖.สารเคมีที่เป็นองค์ประกอบของเม็ดเลือดแดง คือ อะไร....................................................................
๑๗.รูปร่างของเม็ดเลือดแดงคล้ายกับสิ่งใด...............................................................................................
๑๘.หัวใจทำงานสัมพันธ์กับระบบหมุนเวียนเลือดอย่างไร.........................................................................
..................................................................................................................................................................
๑๙.หัวใจมี..............ห้อง แต่ละห้องทำงานเหมือนหรือแตกต่างกัน................... อย่างไร...........................
..................................................................................................................................................................
๒๐.อักษรย่อที่พบ RBCs ย่อมาจากอะไร..................................................................................................
                              WBCs ย่อมาจากอะไร.................................................................................................

ตัวอย่างภาพ

ภาพที่ ๑ เซลล์เม็ดเลือดแดง (Red Blood Cells)

ภาพที่ ๒ ส่วนประกอบของเลือดหลังจากการปั่นแยก


ภาพ ๓ เซลล์เม็ดเลือดขาว (White Blood Cells)

 ภาพ ๔ ความแตกต่างระหว่างเม็ดเลือดแดงที่มีออกซิเจนและไม่มีออกซิเจน ซึงมีสารเคมีที่เป็นองค์ประกอบที่สำคัญคือ  ฮีโมโกลบิน ( hemoglobin [Am.]) (แบบอเมริกา) ส่วนอังกฤษ ว่า เฮโมโกลบินhaemoglobin [Br.]) ย่อเป็น Hb หรือ Hgb 

ภาพ ๕ เม็ดเลือดแดงเมื่ออยู่รวมกันกับส่วนประกอบอื่น ๆ 


ภาพ ๖ ขนาดของเชลล์เม็ดเลือดแดง ประมาณ 6-8 ไมครอน


ภาพ ๗ เซลล์เม็ดเลือดแดงเทียบกับเซลล์เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด


ภาพ ๘ รูปร่างของเซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือดจากกล้องจุลลทรรศน์


ภาพ ๙ รูปร่างของเซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์เม็ดเลือดขาว และเกร็ดเลือดจากกล้องจุลลทรรศน์
สีม่วงที่พบน่าจะเป็นเซลล์ใด......................................................


ภาพ ๑๐เซลล์เม็ดเลือดแดง ล้อมเซลล์เม็ดเลือดขาว 


ภาพ ๑๑ แผนภาพทิศทางการไหลเวียนของเลือด
ส่วนสีฟ้ากับส่วนสีแดงของหลอดเลือด  แสดงไว้เพื่อให้เข้าใจความแตกต่างใน
เรื่องใด.........................................................................................




ภาพ ๑๒ ให้ตอบคำถามต่อไปนี้

หมายเลข 1 คือ.............................................................................................
หมายเลข 2 คือ.............................................................................................
หมายเลข 3 คือ.............................................................................................
หมายเลข 4 คือ.............................................................................................
หมายเลข A คือ.............................................................................................
หมายเลข B คือ.............................................................................................
หมายเลข C คือ.............................................................................................
หมายเลข D คือ.............................................................................................
ตอบแบบทับศัพท์ได้

คำถามที่นักเรียนช่างสงสัย
   ๑.ครูครับหลอดเลือดที่มีทิศทางสัมพันธ์กับหัวใจมีกี่..................ทิศ ครับ ( ๑ ทิศ/ ๒ ทิศ)
   ๒.ทิศทางไหลเวียนของเลือดที่เข้าสู่หัวใจจะเขียนแทนสัญญลักษณ์ใด......................(ลูกสรชี้เข้า/ลูกสรชี้ออก)
   ๓.หลอดเลือดจากหัวใจไปยังปอด มีชื่อว่าอะไรบ้าง...........................................................................(หลอดเลือดแดงพัลโมนารี (pulmonary arteries)/หลอดเลือดดำพัลโมนารี (pulmonary veins) 
  ๔.จากข้อ ๓ ทำไมหลอดเลือดแดงพัลโมนารี (pulmonary arteries) ทั้งที่ลงท้ายด้วย " arteries " แต่ทำไมต้องเขียนแทนด้วยสีน้ำเงินหรือดำ......................................................................
ในทางกลับกัน เมื่อ หลอดเลือดดำพัลโมนารี (pulmonary veins) ทั้งที่ลงท้ายด้วยคำว่า "veins" แล้วทำไมต้องเขียนแทนด้วยสีแดง .......................................................................(เนื่องจาก ทิศทางการไหลเวียนเข้าออกหัวใจ / ความเข้มข้นของปริมาณออกซิเจน เป็นเกณฑ์)

การเรียนรู้อย่างมีความหมาย ที่สอดคล้องกับนักการศึกษา ออซูเบล (Ausubel , David 1963)    เป็นนักจิตวิทยาแนวปัญญานิยม  ออซูเบลกล่าวไว้ว่า "การเรียนรู้จะมีความหมายแก่ผู้เรียน  หากการเรียนรู้นั้นสามารถเชื่อมโยงกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่รู้มาก่อน"  หลักการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้  คือ  มีการนำเสนอความคิดรวบยอดหรือกรอบมโนทัศน์  หรือกรอบแนวคิดในเรื่องใดเรื่องหนึ่งแก่ผู้เรียนก่อนการสอนเนื้อหาสาระ นั้นๆ  จะช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนเนื้อหาสาระนั้นอย่างมีความหมาย  
(A Theory of Meaningful Verbal Learning)
   ภาพใดก็ตามที่พยายามอธิบายหรือสื่อให้ผู้เรียนนั้นจะต้องสามารถเชื่อมโยงอย่างเป็นเหตุเป็นผล เพราะความสงสัยจากการรับรู้ด้วยการสังเกตนั้นของเด็กนั้น ถ้าเกิดปัญญหา หรือ conflict  ก่อน ก็จะทำให้เกิดความท้าทายที่จะค้นหาคำตอบเพื่อคลายปมดังกล่าวได้
ทีมา : http://en.wikipedia.org/wiki/David_Ausubel