มฐ. ว ๑.๑ ป๖/๒ อธิบายการทำงานที่สัมพันธ์กันของระบบย่อยอาหาร ระบบหายใจ และระบบหมุนเวียนเลือดมนุษย์
สาระสำคัญ
ระบบบย่อยอาหาร ทำหน้าที่ย่อยอาหารให้เป็นสารอาหารขนาดเล็กแล้วจะถูกดูดซึมเข้าสู่ระบบหมุนเวียนเลือด แก็สออกซิเจนที่ได้จากระบบหายใจจะทำให้สารอาหารเกิดการเปลี่ยนแปลงจนกลายเป็นพลังงานที่ร่างกายนำไปใช้ได้
ตอนที่ ๑
คำถามที่เกี่ยวข้อง(ขอบข่ายระบบภายในร่างกายมนุษย์)
๑.การย่อยอาหารเกิดขึ้นที่ส่วนใดได้บ้าง.......................................................................
๒.ที่ปากสามารถย่อยอาหารด้วยกระบวนการทางเคมีของสารประเภทใด........................
๓.หลอดอาหารช่วยย่อยอาหารได้หรือไม่....................
๔.กระเพาะอาหารย่อยอาหารประเภทใด........................................................................
๕.กระเพาะอาหารดูดซึมสารอาหารได้หรือไม่............................................................................
๖.น้ำย่อยที่ใช้ในกระเพาะอาหารได้แก่อะไรบ้าง.................................................................. และถูกสร้างมาจากอวัยวะใด................................................................................................................
๗.ลำไส้เล็กมีหน้าที่อะไร..............................................................................................................
๘.น้ำย่อยที่ใช้ในลำไส้เล็กใช้ย่อยสารอาหารประเภทใดได้บ้าง..............................................................
..................................................................................................................................................................
๙.สารอาหารถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดที่ส่วนใดของลำไส้เล็ก............................................................
๑๐.ระบบหมุนเวียนเลือดทำหน้าที่อะไร....................................................................................................
๑๑.ทำไมคนเราต้องมีเลือด ทั้ง ๆ ที่เราก็ได้กินอาหารและย่อยอาหารไปแล้ว..........................................
..................................................................................................................................................................
๑๒.เลือดมีองค์ประกอบอะไรบ้าง.............................................................................................................
๑๓.องค์ประกอบใดของเลือดที่ทำหน้าที่ลำเลียงแก๊สออกซิเจน .......... ..................................................
๑๔.องค์ประกอบใดของเลือดที่ทำหน้าที่ทำหน้าที่กำจัดเชื้อโรค..............................................................
๑๕.องค์ประกอบใดของเลือดที่ทำหน้าที่ในการสมานแผลของหลอดเลือด.............................................
๑๖.สารเคมีที่เป็นองค์ประกอบของเม็ดเลือดแดง คือ อะไร....................................................................
๑๗.รูปร่างของเม็ดเลือดแดงคล้ายกับสิ่งใด...............................................................................................
๑๘.หัวใจทำงานสัมพันธ์กับระบบหมุนเวียนเลือดอย่างไร.........................................................................
..................................................................................................................................................................
๑๙.หัวใจมี..............ห้อง แต่ละห้องทำงานเหมือนหรือแตกต่างกัน................... อย่างไร...........................
..................................................................................................................................................................
๒๐.อักษรย่อที่พบ RBCs ย่อมาจากอะไร..................................................................................................
WBCs ย่อมาจากอะไร.................................................................................................
ตัวอย่างภาพ
ภาพที่ ๑ เซลล์เม็ดเลือดแดง (Red Blood Cells)
ภาพที่ ๒ ส่วนประกอบของเลือดหลังจากการปั่นแยก
ภาพ ๓ เซลล์เม็ดเลือดขาว (White Blood Cells)
ภาพ ๔ ความแตกต่างระหว่างเม็ดเลือดแดงที่มีออกซิเจนและไม่มีออกซิเจน ซึงมีสารเคมีที่เป็นองค์ประกอบที่สำคัญคือ ฮีโมโกลบิน ( hemoglobin [Am.]) (แบบอเมริกา) ส่วนอังกฤษ ว่า เฮโมโกลบิน: haemoglobin [Br.]) ย่อเป็น Hb หรือ Hgb
ภาพ ๕ เม็ดเลือดแดงเมื่ออยู่รวมกันกับส่วนประกอบอื่น ๆ
ภาพ ๖ ขนาดของเชลล์เม็ดเลือดแดง ประมาณ 6-8 ไมครอน
ภาพ ๗ เซลล์เม็ดเลือดแดงเทียบกับเซลล์เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด
ภาพ ๘ รูปร่างของเซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือดจากกล้องจุลลทรรศน์
ภาพ ๙ รูปร่างของเซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์เม็ดเลือดขาว และเกร็ดเลือดจากกล้องจุลลทรรศน์
สีม่วงที่พบน่าจะเป็นเซลล์ใด......................................................
ภาพ ๑๐เซลล์เม็ดเลือดแดง ล้อมเซลล์เม็ดเลือดขาว
ภาพ ๑๑ แผนภาพทิศทางการไหลเวียนของเลือด
ส่วนสีฟ้ากับส่วนสีแดงของหลอดเลือด แสดงไว้เพื่อให้เข้าใจความแตกต่างใน
เรื่องใด.........................................................................................
ภาพ ๑๒ ให้ตอบคำถามต่อไปนี้
หมายเลข 1 คือ.............................................................................................
หมายเลข 2 คือ.............................................................................................หมายเลข 3 คือ.............................................................................................
หมายเลข 4 คือ.............................................................................................
หมายเลข A คือ.............................................................................................
หมายเลข B คือ.............................................................................................
หมายเลข C คือ.............................................................................................
หมายเลข D คือ.............................................................................................
ตอบแบบทับศัพท์ได้
คำถามที่นักเรียนช่างสงสัย
๑.ครูครับหลอดเลือดที่มีทิศทางสัมพันธ์กับหัวใจมีกี่..................ทิศ ครับ ( ๑ ทิศ/ ๒ ทิศ)
๒.ทิศทางไหลเวียนของเลือดที่เข้าสู่หัวใจจะเขียนแทนสัญญลักษณ์ใด......................(ลูกสรชี้เข้า/ลูกสรชี้ออก)
๓.หลอดเลือดจากหัวใจไปยังปอด มีชื่อว่าอะไรบ้าง...........................................................................(หลอดเลือดแดงพัลโมนารี (pulmonary arteries)/หลอดเลือดดำพัลโมนารี (pulmonary veins)
๔.จากข้อ ๓ ทำไมหลอดเลือดแดงพัลโมนารี (pulmonary arteries) ทั้งที่ลงท้ายด้วย " arteries " แต่ทำไมต้องเขียนแทนด้วยสีน้ำเงินหรือดำ......................................................................
ในทางกลับกัน เมื่อ หลอดเลือดดำพัลโมนารี (pulmonary veins) ทั้งที่ลงท้ายด้วยคำว่า "veins" แล้วทำไมต้องเขียนแทนด้วยสีแดง .......................................................................(เนื่องจาก ทิศทางการไหลเวียนเข้าออกหัวใจ / ความเข้มข้นของปริมาณออกซิเจน เป็นเกณฑ์)
การเรียนรู้อย่างมีความหมาย ที่สอดคล้องกับนักการศึกษา ออซูเบล (Ausubel , David 1963) เป็นนักจิตวิทยาแนวปัญญานิยม ออซูเบลกล่าวไว้ว่า "การเรียนรู้จะมีความหมายแก่ผู้เรียน หากการเรียนรู้นั้นสามารถเชื่อมโยงกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่รู้มาก่อน" หลักการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้ คือ มีการนำเสนอความคิดรวบยอดหรือกรอบมโนทัศน์ หรือกรอบแนวคิดในเรื่องใดเรื่องหนึ่งแก่ผู้เรียนก่อนการสอนเนื้อหาสาระ นั้นๆ จะช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนเนื้อหาสาระนั้นอย่างมีความหมาย
(A Theory of Meaningful Verbal Learning)
ภาพใดก็ตามที่พยายามอธิบายหรือสื่อให้ผู้เรียนนั้นจะต้องสามารถเชื่อมโยงอย่างเป็นเหตุเป็นผล เพราะความสงสัยจากการรับรู้ด้วยการสังเกตนั้นของเด็กนั้น ถ้าเกิดปัญญหา หรือ conflict ก่อน ก็จะทำให้เกิดความท้าทายที่จะค้นหาคำตอบเพื่อคลายปมดังกล่าวได้
ทีมา : http://en.wikipedia.org/wiki/David_Ausubel
เออซูเบล ไม่เน้นการท่องจำ แต่ การจำ ก็ เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการเชื่อมโยงของความเข้าใจ
ตอบลบส่วนนักจิตวิทยาท่านนี้ไม่สนใจว่าเด็กจะตอบถูกหรือผิด แต่ท่านสนใจที่ว่าเด็กมีกระบวนการคิดก่อนได้มาซึ่งคำตอบอย่างไร Jean Piaget (French: [ʒɑ̃ pjaʒɛ]; 9 August 1896 – 17 September 1980)
ตอบลบจากคำถามข้อที่ ๑ ที่ถามว่า "การย่อยอาหารเกิดขึ้นที่ส่วนใดได้บ้าง................................................" เด็กบางคนก็ตอบว่า ปาก บางคนก็ว่าท้อง บางคนก็ไม่รู้ บางคนก็เกาหัว บางคนก็เอี้ยวตัวหนี บางคนก็ ครูครับผมขออนุญาตไปห้องน้ำครับ"
ตอบลบครูสอนวิธีคนหาคำตอบให้เด็กหรือไม่
อย่างเช่น
นักเรียนมีความรู้เดิมเรื่องนี้หรือเปล่า
นักเรียนได้อ่านใบความรู้ยัง
ในแบบเรียน มีข้อความที่เกี่ยวข้องกับการย่อยอาหารหรือไม่
เอาเป็นว่า ถ้านักเรียนอยากที่จะตอบ และมั่นใจที่จะตอบได้นั้น ซึ่งไม่ต้องอาศัยความจำ เพียงแต่ใช้ความสามารถในการค้นหาคำตอบจากสิ่งที่นักเรียนมี หรือครูกำหนดให้ ด้วยการอ่านอย่างรวดเร็ว..... นักเรียนก็จะคนหาเจอ คำตอบ
แต่ถ้า ใกล้ ๆ มือนักเรียนมี Hand Book ของนักเรียนไม่มีเนื้อหาสาระแล้วก็จะค้นหาคำตอบได้อย่างไร
ครูจำเป็นต้องสร้าง ยุทธศาสตร์การเรียนรู้ให้กับนักเรียน เพื่อสร้างความมั่นใจในการตอบ
ไม่ว่าการตอบนั้นจะถูกหรือผิดก็ตาม
ครูก็ต้องยินดีฟัง ด้วยเหตุด้วยผลของเขาที่ตอบมา